สถานะพอร์ต MTD ณ 10 ต.ค. 59 หลังหุ้นตกหนัก

ขอ Update สถานะพอร์ต MTD (Month-to-Date)
หรือสถานะพอร์ตนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 59 เป็นกรณีพิเศษ

เนื่องจากเมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 59) หุ้นไทยตกหนักมาก
คือปรับลดลงจาก 1504.34 จุด มาอยู่ที่ 1457.02
ลดลง -47.32 หรือ -3.15% ในวันเดียว
อาการคล้ายๆ กับที่ตกแรงไปในช่วง ปลาย ส.ค. – ต้น ก.ย. 59
จึงต้องขอดูสถานะพอร์ตเสียหน่อยว่ายังโอเคอยู่มั๊ย

สถานะพอร์ต ณ 10 ต.ค. 59

01-portfolio-outstanding

มูลค่าพอร์ต ณ ปัจจุบันเท่ากับ 201,697.05 บาท
(คำนวณจาก NAV ล่าสุด ณ 10 ต.ค. 59 สำหรับกองต่างประเทศจะเป็น ณ 7 ต.ค. 59 เพราะ NAV ล่าสุดยังไม่ออก)

02-performance

เดือนนี้พอร์ตปรับลดลงไป -0.91% แล้ว
ถ้านับรวมผลตอบแทนเดือน ก.ย. ด้วย พอร์ตก็ปรับลดลง -1.65%

03-performance-vs-benchmark

หากเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานก็ถือว่า “ยังโอเคอยู่”
เพราะในเดือนนี้ Benchmark ก็ปรับลง -0.96% คือพอร์ตชนะนิดๆ ด้วยซ้ำ
ซึ่งนั่นแปลว่า ใครก็ตามที่จัดพอร์ตประมาณนี้ แล้วขาดทุนประมาณนี้
ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ความผิดพลาดอะไร
เพราะเป็นเดือนที่สินทรัพย์มีความผันผวนในทิศขาลง

04-benchmark

หากแจกแจง Benchmark ออกเป็นรายสินทรัพย์
จะเห็นว่า SET TRI เดือนนี้ ยังไม่ได้ลงหนักเท่ากับทองคำ
จากตาราง SET TRI ลดไป -1.76% แต่ทองลบหนักถึง -4.96% เลยทีเดียว
ส่วน S&P500 TRI เดือนนี้ก็เป็นบวกขึ้นมาแล้ว 0.51%

05-attribution

แยกแยะรายกองก็จะเห็นว่าเดือนนี้ BTP ก็ยังชนะ SET TRI ได้
ส่วน UTSME ก็ยังแพ้ SET TRI นิดหน่อยเหมือนเดือนก่อน

ส่วนในกลุ่มของหุ้นต่างประเทศ เดือนนี้ S&P 500 TRI ปรับขึ้นบ้างแล้ว
TMBAGLF ซึ่งเป็นพระเอกของเดือนที่แล้ว เดือนนี้ยังแทบไม่เปลี่ยน
ABAGS ซึ่งเดือนที่แล้วทำได้ไม่ค่อยดี เดือนนี้ชนะ S&P500 TRI แล้ว
ตัวที่หนักคือ CIMB-PRINCIPAL GIF ซึ่งดูจะปรับลงหนักเกินไป
ทั้งๆ ที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเดือนนี้ปรับเป็นบวกแท้ๆ กองนี้ลงถึง -2.54%


มุมมองไปข้างหน้า

มองภาพรวมแบบทั้งพอร์ต ผมยังรู้สึกเฉยๆ
ยังไม่คิดว่าต้องมีการปรับพอร์ตอะไร ที่รู้สึกว่าต้องจับตาก็คงเป็นสองสินทรัพย์หลักคือ “หุ้นไทย” และ “ทองคำ”

สำหรับหุ้นไทยนั้น หากดูแนวโน้มราคาจากกราฟ (Week) ล่าสุดด้านล่าง

06-set-week-10102016

จะเห็นว่า SET หลุด MA 20 สัปดาห์ สะท้อนเป็นแนวโน้มขาลงระยะกลางแล้ว แต่ยังไม่หลุด MA 40 สัปดาห์ ซึ่งบอกแนวโน้มระยะยาว แปลว่าถ้ายังอยากจะลองถือดูก็ถือได้ อีกอย่างพอร์ตที่จัดตอนนี้ก็ Underweight หุ้นไทยอยู่แล้ว (Weight ปัจจุบัน = 18.8% แต่ SAA = 30%) ยังมีกระสุนรออยู่ใน K-FIXED หากตกลงมากกว่านี้แล้วอยากจะซื้อเพิ่ม

ถ้าดู Trendline ระยะกลางๆ ที่ลากจากแนวโน้มราคาช่วง เม.ย. – ปัจจจุบัน
จะพบว่าหุ้นที่ตกลงมาเมื่อวานก็ลงมาแตะแถวๆ เส้นนี้พอดี
นั่นคือก็ต้องดูต่อว่ามันจะหลุดมั๊ย ถ้าหลุดก็น่ากลัว ถ้าไม่หลุดก็คงดีขึ้น

ส่วนทองนั้นเดือนนี้ลงมาหนักมากอย่างที่เขียนไปด้านบน

08-gold-week-10102016

หากดูแนวโน้มราคาตอนนี้หลุดทั้ง MA 20 สัปดาห์ และ 40 สัปดาห์แล้ว
แต่ก็เหมือนจะยืนๆ อยู่แถวเส้น 40 สัปดาห์ ซึ่งไม่รู้ว่าหลุดจริงหรือหลุดปลอม แต่ถ้าใคร Strict กับเส้นนี้ก็หมายความว่าต้องพิจารณาลดทองลงอย่างมีนัยยะแล้ว

ส่วนตัวผมยังคิดว่ามันน่าจะยืนๆ อยู่แถวนี้ และยังไม่อยากปรับอะไร (เรามีทองอยู่ประมาณ 10% ในพอร์ตปัจจุบัน) เหตุผลสำคัญที่ยังถือ เป็นเหตุผลเชิง Contrarian ในแง่ของการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นเป็นหลัก คือ ยังคิดว่าเศรษฐกิจโลกมันยังไม่ได้ปลอดโปร่งจริงๆ น่าจะพร้อมเกิดอะไรต่อมิอะไรได้อีก (เช่น ประเด็น ธนาคารในยุโรป เป็นต้น) หรือถ้าไม่เกิดขึ้น แล้วเศรษฐกิจโลกโต เงินเฟ้อมา ทองก็น่าจะพอได้อานิสงฆ์อยู่บ้างครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *